พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

คล่องทุกกระบวนการ พร้อมทำงานอย่างมั่นใจ กับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคสมัยนี้การติดต่อสื่อสารเกิดขึ้นตลอดเวลาทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ อีกทั้งเทคโนโลยีก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการติดต่อสื่อสารและเก็บบันทึกข้อมูลการสื่อสารนั้นด้วย ในโลกธุรกิจเองก็เช่นกัน การซื้อขายหรือให้บริการย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่มากก็น้อย  ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การให้บริการแก่ลูกค้า การประสานงานต่างๆ การนำข้อมูลมาเพื่อวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธทางการตลาด พัฒนาการขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการนั้นสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้มีประสิทธิภาพและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด 

แต่รู้หรือไม่ว่า ข้อมูลที่ถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจนั้น ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือข้อมูลที่สามารถทำให้ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ อาจถือเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งได้รับความคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ.ฯ นี้ ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายในการขอเข้าถึงข้อมูล ขอแก้ไข ขอคัดค้านการจัดเก็บ ขอระงับใช้ ไปจนถึงขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลของตนได้เช่นกัน การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ จึงมุ่งเน้นให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดสิทธิดังกล่าว

นอกจากข้อมูลสำหรับการประกอบธุรกิจแล้ว สถานประกอบการทุกแห่งควรต้องคำนึงถึงความสำคัญในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในองค์กรเองด้วย

คุณพร้อมหรือยังกับ
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่กำลังมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบเร็วๆ นี้

องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) ต้องเริ่มปรับแผนการดำเนินงานประจำวันของตัวเองให้เข้ากับมาตรการของพรบ. นี้ ตั้งแต่การจัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัว การขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การแจ้งวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล แจ้งหน่วยงานที่อาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งสถานที่ติดต่อหรือวิธีการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล และแจ้งสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ รวมถึงจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และสร้างเสริมความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคลากร พนักงาน ลูกจ้างหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กฎหมายกำหนด

ดังนั้น เราทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสำคัญของ พ.ร.บ. นี้ โดยเริ่มวางกลยุทธ์พร้อมปรับแผนการทำงานโดยด่วน เนื่องจากการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ใช่ความรับผิดชอบเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การตรวจสอบและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และการคุ้มครองปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กรในอนาคตอีกด้วย